สรุป prefix suffix
Prefixes คําเติมหน้า
หรือที่เรียกว่าอุปสรรค คํากลุ่มนี้ใช้เติมหน้าคําหลัก (root word)
เช่น un + happy = unhappy
(un คือ prefix happy คือ root word)
un + kind = unkind
(un คือ Prefix kind คือ root word)
*เวลาเติม Prefix “un” หน้า root word จะเปลี่ยนความหมายให้เป็นตรงข้าม
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ prefixes บางตัวอย่างที่พบบ่อย ๆ
เช่น un + happy = unhappy
(un คือ prefix happy คือ root word)
un + kind = unkind
(un คือ Prefix kind คือ root word)
*เวลาเติม Prefix “un” หน้า root word จะเปลี่ยนความหมายให้เป็นตรงข้าม
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ prefixes บางตัวอย่างที่พบบ่อย ๆ
1 Prefixes ที่เปลี่ยนความหมายให้เป็นทางลบ
(negative) un, non, in, dis เช่น
reasonable - unreasonable
sense - nonsense
2 Prefixes ที่เติมแล้วเปลี่ยน root word ให้มีความหมายตรงข้ามได้แก่ un., de., dis…
happy - unhappy
classify – declassify
reasonable - unreasonable
sense - nonsense
2 Prefixes ที่เติมแล้วเปลี่ยน root word ให้มีความหมายตรงข้ามได้แก่ un., de., dis…
happy - unhappy
classify – declassify
3. Prefixes ที่เติมข้างหน้าแล้วเปลี่ยน root
word ไปในทางไม่ดีหรือไม่พอเพียง เช่น
mis…, mal…., pseudo…….
understand - misunderstand
4. Prefixes ที่บอกเกี่ยวกับขนาดและดีกรี (มาก/น้อย) เช่น super…., sub…., over….,
under…., hyper…., mini…..,
market - supermarket
5. Prefixes ที่เกี่ยวข้องกับเวลาและลําดับ เช่น pre….., post….., ex…., re…..
test - pre-test / post-test
husband - ex-husband
6. Prefixes ที่เกี่ยวกับจํานวน เช่น uni…., mono….., bi…., tri… multi….., poly……
lateral - unilateral
tone - monotone
mis…, mal…., pseudo…….
understand - misunderstand
4. Prefixes ที่บอกเกี่ยวกับขนาดและดีกรี (มาก/น้อย) เช่น super…., sub…., over….,
under…., hyper…., mini…..,
market - supermarket
5. Prefixes ที่เกี่ยวข้องกับเวลาและลําดับ เช่น pre….., post….., ex…., re…..
test - pre-test / post-test
husband - ex-husband
6. Prefixes ที่เกี่ยวกับจํานวน เช่น uni…., mono….., bi…., tri… multi….., poly……
lateral - unilateral
tone - monotone
Suffix
Suffix (ปัจจัย) คือคำที่เติมท้ายคำอื่น แล้วให้คำนั้นเปลี่ยนชนิดของคำไป (เช่น
อาจเปลี่ยนจากคำนามเป็นคำคุณศัพท์ เป็นต้น) แต่ความหมายของคำนั้นยังเหมือนเดิม
เช่น employ (ว่าจ้าง) เป็น verb (คำกริยา) หากเราเติม Suffix "-er" เป็นemployer (นายจ้าง ความหมายยังคล้ายของเดิม
แต่ขอให้สังเกตว่าจะเปลี่ยนหน้าที่เป็น noun (คำนาม)
เพื่อความสะดวกในการจำ เลยได้รวบรวมเป็นกลุ่มๆไว้ดังนี้
1. Noun Suffix คือ คำนามที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือ
- คำนามที่แสดงตัวผู้กระทำ (denoting an agent) ซึ่งถูกสร้างมาจาก Suffix ดังต่อไปนี้
-ant / -ent / - ar / -er / -ard /-eer / -ess / - ier / -yer / -ian / -ist / -or / -ster / -monger ใช้เติมหลังคำกริยาหรือคำนาม , adjเพื่อให้เป็น นามผู้กระทำการเท่านั้น
- คำนามที่แสดงตัวผู้รับการกระทำ (denoting the receiver of an action) -ee / -ite / -ive
2.Verb Suffix คือ คำกริยาที่สร้างมาจาก Suffix อันได้แก่ -ate / -en / -fy / -ise / -ize
3. Adjective Suffix คือ คำคุณศพท์ที่เกิดจากการเติม Suffix ต่อไปนี้โดยจะแยกเป็นกลุ่ม ๆ คือ
4.Suffix กลุ่มอื่นๆที่น่าสนใจ
1. Noun Suffix คือ คำนามที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือ
- คำนามที่แสดงตัวผู้กระทำ (denoting an agent) ซึ่งถูกสร้างมาจาก Suffix ดังต่อไปนี้
-ant / -ent / - ar / -er / -ard /-eer / -ess / - ier / -yer / -ian / -ist / -or / -ster / -monger ใช้เติมหลังคำกริยาหรือคำนาม , adjเพื่อให้เป็น นามผู้กระทำการเท่านั้น
- คำนามที่แสดงตัวผู้รับการกระทำ (denoting the receiver of an action) -ee / -ite / -ive
2.Verb Suffix คือ คำกริยาที่สร้างมาจาก Suffix อันได้แก่ -ate / -en / -fy / -ise / -ize
3. Adjective Suffix คือ คำคุณศพท์ที่เกิดจากการเติม Suffix ต่อไปนี้โดยจะแยกเป็นกลุ่ม ๆ คือ
4.Suffix กลุ่มอื่นๆที่น่าสนใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น