สังคมศึกษา

                                          หลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
  •  ความหมาย  ความเป็นมาและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์
นิยามความหมาย
วิชาเศรษฐศาสตร์  (Economics)  คือ  วิชาที่ว่าด้วยการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่มีไม่จำกัด  โดยมุ่งหมายให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด
คำว่า  “เศรษฐศาสตร์” (Economics)  เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกว่า  “Oikonomikos”    (Oikos  =  บ้าน  +  nomos  =  การดูแลจัดการ)  ซึ่งแปลว่าการบริหารจัดการของครัวเรือน  อย่างไรก็ตามคำว่า  “เศรษฐศาสตร์”  นั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งและมีขอบเขตกว้างกว่ารากศัพท์เดิมมาก 
          ถ้าพิจารณาคำว่าเศรษฐศาสตร์จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  พ.ศ.2525  หมายถึง  วิชาว่าด้วยการผลิต  จำหน่ายจ่ายแจกและการบริโภคใช้สอยสิ่งต่างๆของชุมชน
ความเป็นมาของวิชาเศรษฐศาสตร์
            แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว  นักปราชญ์สมัยโบราณพยายามสอดแทรกแนวความคิดและกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ปะปนอยู่ในหลักปรัชญา  ศาสนา  ศีลธรรมและหลักปกครอง  แต่ความคิดเหล่านี้ยังไม่ถือเป็นทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์  เช่น  แนวคิดเรื่องการแบ่งงานกันทำของเพลโต (Plato)  แนวคิดเรื่องความมั่งคั่ง  ของอริสโตเติล (Aristotle)  เป็นต้น 
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้มีนักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษบุคคลแรกที่วางรากฐานวิชาเศรษฐศาสตร์  คือ อาดัม  สมิธ  (Adam  Smith)  ได้เขียนตำราทางเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของโลก  ซึ่งมีชื่อค่อนข้างยาวว่า  “An  Inquiry  into  the  Nature  and  Causes  of  the  Wealth  of  Nations”  หรือเรียกสั้นๆว่า   “The  Wealth  Nations”  (ความมั่งคั่งแห่งชาติ)  ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1776 โดยเสนอความคิดว่า  รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศควรเข้าแทรกแซงการผลิตและการค้าให้น้อยที่สุด  โดยยินยอมให้เป็นภาระหน้าที่ของเอกชน  ทั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงแนวความคิดแบบเสรีนิยมหรือส่งเสริมระบบเศรษฐกิจแบบเสรี
จากหนังสือของอาดัม  สมิธ  ดังกล่าวถือเป็นตำราทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญเล่มแรกของโลก  และตัวเขาได้รับการยกย่องให้เป็น  “บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์”  ในสมัยต่อมา
ความเป็นมาของวิชาเศรษฐศาสตร์ในประเทศไทย
                                               พระยาสุริยานุวัตร(เกิด บุนนาค)
 คนไทยรุ่นบุกเบิกที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์จากต่างประเทศเท่าที่มีการกล่าวถึงในเอกสารมีเพียงไม่กี่ท่าน  ท่านหนึ่งคือ  กรมหมื่นสรรค์วิไสยนรบดีฯ  (พระนามเดิมพระองค์เจ้าดิลกนพรัตน์)  พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงศึกษาสำเร็จปริญญาเอกจากประเทศเยอรมนี  ในปี  พ.ศ.2450  ทรงเขียนวิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิตในเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจการเกษตรของไทย  ท่านทรงรับราชการเพียง  5  ปี  ก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุเพียง  28  พรรษา
          บุคคลสำคัญในกลุ่มบุกเบิกการเผยแพร่วิชาเศรษฐศาสตร์ในประเทศไทยคือ พระยาสุริยานุวัตร ซึ่งเคยดำรงดำแหน่งที่สำคัญคือ เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ   ท่านเป็นผู้เรียบเรียงและพิมพ์ตำราทางเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของไทย 
   พระยาสุริยานุวัตร(เกิด บุนนาค)

 ชื่อ  “ทรัพย์ศาสตร์” ในปี พ.ศ.2454 ต่อมาดร.ทองเปลว  ชลภูมิ  ผู้สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ขออนุญาตจากท่านนำหนังสือดังกล่าวมาจัดพิมพ์ใหม่และให้ชื่อว่า  “เศรษฐศาสตร์ภาคต้น”  เล่ม  1  และเล่ม  2  เพื่อใช้เป็นตำราเรียน


  • แขนงของวิชาเศรษฐศาสตร์
          การศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์  จำแนกตามเนื้อหาได้  2  สาขา  คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค  (Microeconomics)และเศรษฐศาสตร์มหภาค(Macroeconomics) 
                     1)  เศรษฐศาสตร์จุลภาค  (Microeconomics)  เป็นแขนงของวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาถึงปัญหาและพฤติกรรมทางเศรษฐกิจของสังคมในระดับหน่วยย่อยเป็นสำคัญ  มุ่งเน้นศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ดำเนินกิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ  ด้านพฤติกรรมของตลาดและกลไกราคา  บางครั้งเรียกทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จุลภาคว่า  ทฤษฎีราคา (Price Theory)
                     2)  เศรษฐศาสตร์มหภาค  (Macroeconomics) เน้นศึกษาเรื่องราวหรือ  กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมหรือระดับประเทศ  เช่น  การบริหารงบประมาณแผ่นดินประจำปี  ปัญหาเงินเฟ้อ  และรายได้ประชาชาติ  เป็นต้น  บางครั้งเรียกทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มหภาคว่า   ทฤษฎีรายได้ประชาชาติ
            ในปัจจุบันนี้  นักวิชาการนิยมศึกษาเศรษฐศาสตร์จุลภาคและมหภาคควบคู่กันไป  จะเห็นได้ว่ามีการนำผลวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐศาสตร์จุลภาคมาประยุกต์ใช้กับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มหภาคมากขึ้น  ก็เพราะเศรษฐกิจส่วนรวม ย่อมมีองค์ประกอบที่เป็นเศรษฐกิจหน่วยย่อยๆรวมกัน    และพฤติกรรมของแต่ละบุคคลหรือแต่ละหน่วยผลิตซึ่งเป็นเศรษฐกิจหน่วยย่อยๆ  เพราะเศรษฐกิจหน่วยย่อยนี้ก็มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมและความเป็นไปของเศรษฐกิจในระดับประเทศหรือระดับส่วนรวมของสังคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น